ระบบบำบัดก๊าซเสียในอุตสาหกรรมใช้ในการกำจัดก๊าซและสารมลพิษที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต โดยปกติแล้วจะมีหลายขั้นตอน เริ่มจากการเก็บรวบรวมก๊าซเสียผ่านอุปกรณ์ เช่น ท่อและพัดลม จากนั้นจะใช้เทคโนโลยีการกรองหรือการแยก เช่น เครื่องแยกพายุไซโคลนหรือถุงกรอง เพื่อกำจัดอนุภาคของแข็ง จากนั้นก๊าซเสียจะได้รับการบำบัดทางเคมี เช่น หอชะล้าง การดูดซับด้วยถ่านกัมมันต์ หรือการออกซิเดชันแบบเร่งปฏิกิริยา เพื่อกำจัดสารที่เป็นอันตราย เช่น สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) สารประกอบซัลเฟอร์ และสารออกไซด์ของไนโตรเจน เมื่อก๊าซที่ผ่านการบำบัดแล้วมีค่ามาตรฐานการปล่อยก๊าซที่กำหนด จึงสามารถปล่อยออกสู่บรรยากาศได้ ซึ่งจะช่วยให้เป็นไปตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบจากมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบ
ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมที่รวดเร็ว รัฐบาลไทยได้เพิ่มความเข้มงวดของกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อควบคุมการปล่อยมลพิษ บริษัทจำเป็นต้องจัดซื้อและติดตั้งอุปกรณ์บำบัดก๊าซเสียที่ได้มาตรฐานเพื่อให้การปล่อยก๊าซเป็นไปตามข้อกำหนด หากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ บริษัทอาจต้องเผชิญกับค่าปรับสูง การหยุดการผลิต หรือการฟ้องร้องทางกฎหมาย นอกจากนี้ยังอาจทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหายและลดความสามารถในการแข่งขันในตลาด
กฎระเบียบด้านการบำบัดก๊าซเสียของไทยถูกกำกับดูแลโดยกรมควบคุมมลพิษ (PCD) ภายใต้พระราชบัญญัติโรงงานและพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งแวดล้อม กฎระเบียบหลักได้แก่:
● มาตรฐานการปล่อยมลพิษ: กำหนดความเข้มข้นสูงสุดที่อนุญาตของสารมลพิษในก๊าซเสีย เช่น ฝุ่นละออง สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) สารออกไซด์ของซัลเฟอร์ และสารออกไซด์ของไนโตรเจน
● การควบคุมคุณภาพอากาศ: คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของไทยกำหนดขีดจำกัดการปล่อยก๊าซเสียในบางอุตสาหกรรม โดยบริษัทต้องติดตามและรายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเสียเป็นประจำ
● ข้อกำหนดเฉพาะในแต่ละอุตสาหกรรม: เช่น อุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมัน เคมีภัณฑ์ และปูนซีเมนต์ จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์บำบัดก๊าซเสียที่ได้มาตรฐานและได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลก่อนดำเนินการ
หัวข้อเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียและน้ำบริสุทธิ์: เครื่องอัดตะกอนแบบสกรู, เครื่องกรองแผ่นกรอง, เครื่องรีดตะกอนแบบสายพาน, โบลเวอร์, หัวเติมอากาศ, ระบบ MBR, ระบบ DAF, ตะแกรงดักขยะ, ปั๊มตะกอน, เครื่องควบคุม PH/ORP, PAC/Polymer, ระบบ RO น้ำบริสุทธิ์, ระบบ EDI น้ำบริสุทธิ์สูง, ถังเคลือบด้วยอีนาเมล (GFS)